นี่คือแผนการเดินทางเรียบๆง่ายๆ (แต่...)
ไฟลท์บิน จากกรุงเทพไปเที่ยวบิน ของ Etihad สายการบินแห่งชาติ ของ UAE เวลา18:20 ตอนเย็นถึง อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 22:00 วันที่ 29 กรกฎาคม 2558แล้วรอต่อเครื่อง สามชั่วโมง ตอนตีสอง ไปถึงที่โรม ตอน 7:00ของวัน ที่ 30 รวมแล้ว 17 ชั่วโมงพอดี
แต่.... เข้าใจมาตลอดว่าเครื่องออกจากสุวรรณภูมิ ตอน 18:40
กะว่าจะออกจากบ้านก่อนบ่ายสามแต่เคลียร์งานไม่เสร็จ สรุปเรียกแท็กซี่ออกมาถึงถนนใหญ่ ตอน 16:00 เท่านั้นแหละ รถติดแหงกๆๆๆๆ ทุกคนกลับ ต่างจังหวัด ไปเที่ยว วันหยุด วันสำคัญทางศาสนาพุทธ
พี่แท็กซี่เป็นคนดีมากเหมือนกับที่เราอยากให้แท็กซี่ทุกคันเป็นแบบนี้ คือพี่ไม่ปาดไม่ขับรถมารยาทแย่ กูเกิล บอกว่าจะต้องใช้เวลา ไปสนามบินเกือบสองชั่วโมง ถนนในแผนเป็นสีแดงบ่งบอกถึงสภาพการจราจรติดมาก
พี่แท็กซี่ เปิดวิทยุน่าจะ จส100 ในเสียงวิทยุ ได้ยินแต่ รถติดๆๆๆๆๆๆ ฟังแล้วพาลให้ จิตต์
คำนวณดีแล้ว ไม่ทันแหงมๆ ดูเวลาแล้วถึง สนามบิน 18:00 แล้วเหลืออีกยี่สิบนาที จะขึ้นเครื่องทันได้อย่างไร แต่ดีการเที่ยวครั้งนี้เป็นแบบ แบ็กแพ็กไม่มีกระเป๋าโหลด
หายใจเข้าลึก ๆ เช็คแผนสำรอง เข้าแอฟ skyscanner พบราคาถูกที้สุดเที่ยวบินใกล้เคียงกัน นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินวันนี้หรือวันนี้ แค่ขาเดียว คือ สามหมื่นบาท (ช็อค!!) มีทางเลือกที่ดีที่สุด คือศรีลังกา แอร์ ออก22:00 ไมถึงโรม เวลาเดียวกัน
ราคาเช็คครั้งแรก 15,600 เช็คถัดมายี่สิบนาที 16,000 ต่อมา17,600+ ( ปรับขึ้นเป็นวินาทีเลยรึ)
แผนสำรองดูจะไม่เข้าท่าละ ผลจากการหายใจลึกๆในช่วงแรกทำให้มี ออกซิเจน ไปเลี้ยงสมอง ทำให้มีสติ นั่นทำให้ผมทำสิ่งที่ฉลาดที่สุดนั่นคือ...
สวดมนต์ ภาวนา อ้อนวอน ขอให้ทันและเครื่องบินดีเลย์(ไม่รู้ว่าเป็นการงมงาย หรือ พลังบวก กฎแรงดึงดูด the secret อะไรที่ก็แล้วแต่)
ทันใดนั้นเอง
GOOGLE เตือนขึ้นว่า เครื่องบินดีเลย์ รีบบอกพี่แท็กซี่ เป็นความหวังเล็กน้อยๆ
รีบ เช็คอิน ออนไลน์เลย ได้ตั๋วส่งมาให้ทางอีเมลล์
พอใกล้สนามบินรถดันติด มองหา มอเตอร์ไซค์ รับจ้างก็ไม่มี แต่ยังคิดบวกอยู่ ติดอยู่ตรงนั้น สิบห้านาที
แล้วเราก็มาถึงสนามบินใช้เวลาสองชั่วโมงถึง 18:00 ให้เงินพี่แท็กซี่เพิ่ม 200 ในฐานะ แบกรับความเครียดของผมไว้
ตอนอยู่บนแท็กซี่ เช็คที่เว็ปการท่า แล้วเคาเตอร์ เช็คอินยังเปิด กึ่งเดินกึ่งวิ่ง รองเท้านี่หมดอายุละนะ ดอกยางเสื่อมไม่เกาะถนนเอาซะเลย
พอถึง เค้าเตอร์โซน Q เจ้าหน้าที่ตรงด้านในสุดที่คอยจัดการเรื่องตั๋วถัดจากเค้าเตอร์โหลดกระเป๋าบอกว่าเค้าเตอร์ปิดแล้วเครื่องบินจะขึ้นละเนี่ย ไม่ทันเปลี่ยนไฟล์ทเป็น 20:00 ละกันเพิ่มเงินด้วย
ผมบอกว่ายังใงก็ได้พี่ สรุปไฟล์ท์นั้นเต็ม
พนักงานมารวมกันสามคนบนคอมพิวเตอร์อินเดียวกัน แล้วสงสัยบนเครื่อง วอร์ (วิทยุ วอลคกี้ทอล์คกี้) มา สรุปเครื่องบินดีเลย์แต่ที่เค้าเตอร์ไม่รู้ มีตั๋วแล้ว ไม่ต้องโหลดกระเป๋า
และแล้วปฎิบัติการ the flash (วิ่งเร็วใกล้ความเร็วแสง) ได้เริ่มขึ้น ตอนนั้น 18:10 ละ เจ้าหน้าที่ Etihad ให้บัตร FastLane มาอยู่ใกล้เค้าเตอร์ มีพนักงานพาวิ่ง เช็คกระเป๋า ตรวจพาสปอร์ต 5 นาที หลังจากนั้น วิ่งไปเกต(ประตู) D6. ดีที่อยู่ตรงนั้นเลย พนักงานพาวิ่งมา ส่งให้พนักงานคนที่สอง ส่งต่อให้พนักงานที่สามพาวิ่ง เค้าพูดกับผมเป็นภาษาอังกฤษ You need to run you are the last one hurry upๆๆ มือนึงถือคอมมือนึงหิ้วกางเกงที่ใส่ตัวหลวมๆมาทุลักทุเล ส่งต่อให้พนักงานคนที่สีพาลงบันได
ตรวจตั๋ว พนักงานคนที่ห้าพาเดินเร็วไปที่เครื่องถึงเครื่อง 18:20 เหลือเวลา 20 นาทีเครื่องออก ผู้โดยสารอยู่ในอาการพักผ่อนไม่มีใครสนใจใคร
เป็นอันเสร็จพิธี
นั่งปุ๊บ ลุงป้าชาวสกอตแลนด์ชวนคุยทันที แต่ตอนนั้น หัวใจเต้นเร็วสุด กระหายน้ำ อยากจะอาเจียน
ผ่านไปยี่สิบนาทีหัวใจยังเต้นอยู่ที่ 120 ครั้งต่อนาที (เป็นการบริหารหัวใจ เป็นการหลอกให้ร่างกายหลั่ง Growth hormone ออกมาจากสภาวะขับขันต่อสู้ แต่ไม่เครียดนะเตรียมใจละว่าได้วิ่งชัวร์ ดีกว่าเสียเงินซื้อตั๋วใหม่
อากาศแปรปรวน งดการบริการอาหารและเครื่องดื่ม สามชั่วโมง กัปตันประกาศ, ดีที่ผ่านไปสองชั่วโมงอากาศดีขึ้นได้กินน้ำแล้ว
ตอนนี้นั่งอยู่บนเครื่อง จาก อาบูดาบี มาโรม ใกล้ถึงแล้วหละ โรม ตอนนี้ 5:25 ประเทศไทย 10:25 ละ
ต้องมานั่งพิมพ์เพราะคิดว่าตัวเองเองน่าจะเป็นพวกอัลไซเมอร์ พรุ่งนี้อาจจะจำอะไรไม่ค่อยได้
ติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ
#ABHICHAT
รายงานจาก ความสูง 36000 ฟุต ทางใต้ประเทศอิตาลี (ถ้าวิ่งไปตะวันตก ความสูงจะเป็นเลขคู่ จากพันทิป)
ไฟลท์บิน จากกรุงเทพไปเที่ยวบิน ของ Etihad สายการบินแห่งชาติ ของ UAE เวลา18:20 ตอนเย็นถึง อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 22:00 วันที่ 29 กรกฎาคม 2558แล้วรอต่อเครื่อง สามชั่วโมง ตอนตีสอง ไปถึงที่โรม ตอน 7:00ของวัน ที่ 30 รวมแล้ว 17 ชั่วโมงพอดี
แต่.... เข้าใจมาตลอดว่าเครื่องออกจากสุวรรณภูมิ ตอน 18:40
กะว่าจะออกจากบ้านก่อนบ่ายสามแต่เคลียร์งานไม่เสร็จ สรุปเรียกแท็กซี่ออกมาถึงถนนใหญ่ ตอน 16:00 เท่านั้นแหละ รถติดแหงกๆๆๆๆ ทุกคนกลับ ต่างจังหวัด ไปเที่ยว วันหยุด วันสำคัญทางศาสนาพุทธ
พี่แท็กซี่เป็นคนดีมากเหมือนกับที่เราอยากให้แท็กซี่ทุกคันเป็นแบบนี้ คือพี่ไม่ปาดไม่ขับรถมารยาทแย่ กูเกิล บอกว่าจะต้องใช้เวลา ไปสนามบินเกือบสองชั่วโมง ถนนในแผนเป็นสีแดงบ่งบอกถึงสภาพการจราจรติดมาก
พี่แท็กซี่ เปิดวิทยุน่าจะ จส100 ในเสียงวิทยุ ได้ยินแต่ รถติดๆๆๆๆๆๆ ฟังแล้วพาลให้ จิตต์
คำนวณดีแล้ว ไม่ทันแหงมๆ ดูเวลาแล้วถึง สนามบิน 18:00 แล้วเหลืออีกยี่สิบนาที จะขึ้นเครื่องทันได้อย่างไร แต่ดีการเที่ยวครั้งนี้เป็นแบบ แบ็กแพ็กไม่มีกระเป๋าโหลด
หายใจเข้าลึก ๆ เช็คแผนสำรอง เข้าแอฟ skyscanner พบราคาถูกที้สุดเที่ยวบินใกล้เคียงกัน นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินวันนี้หรือวันนี้ แค่ขาเดียว คือ สามหมื่นบาท (ช็อค!!) มีทางเลือกที่ดีที่สุด คือศรีลังกา แอร์ ออก22:00 ไมถึงโรม เวลาเดียวกัน
ราคาเช็คครั้งแรก 15,600 เช็คถัดมายี่สิบนาที 16,000 ต่อมา17,600+ ( ปรับขึ้นเป็นวินาทีเลยรึ)
แผนสำรองดูจะไม่เข้าท่าละ ผลจากการหายใจลึกๆในช่วงแรกทำให้มี ออกซิเจน ไปเลี้ยงสมอง ทำให้มีสติ นั่นทำให้ผมทำสิ่งที่ฉลาดที่สุดนั่นคือ...
สวดมนต์ ภาวนา อ้อนวอน ขอให้ทันและเครื่องบินดีเลย์(ไม่รู้ว่าเป็นการงมงาย หรือ พลังบวก กฎแรงดึงดูด the secret อะไรที่ก็แล้วแต่)
ทันใดนั้นเอง
GOOGLE เตือนขึ้นว่า เครื่องบินดีเลย์ รีบบอกพี่แท็กซี่ เป็นความหวังเล็กน้อยๆ
รีบ เช็คอิน ออนไลน์เลย ได้ตั๋วส่งมาให้ทางอีเมลล์
พอใกล้สนามบินรถดันติด มองหา มอเตอร์ไซค์ รับจ้างก็ไม่มี แต่ยังคิดบวกอยู่ ติดอยู่ตรงนั้น สิบห้านาที
แล้วเราก็มาถึงสนามบินใช้เวลาสองชั่วโมงถึง 18:00 ให้เงินพี่แท็กซี่เพิ่ม 200 ในฐานะ แบกรับความเครียดของผมไว้
ตอนอยู่บนแท็กซี่ เช็คที่เว็ปการท่า แล้วเคาเตอร์ เช็คอินยังเปิด กึ่งเดินกึ่งวิ่ง รองเท้านี่หมดอายุละนะ ดอกยางเสื่อมไม่เกาะถนนเอาซะเลย
พอถึง เค้าเตอร์โซน Q เจ้าหน้าที่ตรงด้านในสุดที่คอยจัดการเรื่องตั๋วถัดจากเค้าเตอร์โหลดกระเป๋าบอกว่าเค้าเตอร์ปิดแล้วเครื่องบินจะขึ้นละเนี่ย ไม่ทันเปลี่ยนไฟล์ทเป็น 20:00 ละกันเพิ่มเงินด้วย
ผมบอกว่ายังใงก็ได้พี่ สรุปไฟล์ท์นั้นเต็ม
พนักงานมารวมกันสามคนบนคอมพิวเตอร์อินเดียวกัน แล้วสงสัยบนเครื่อง วอร์ (วิทยุ วอลคกี้ทอล์คกี้) มา สรุปเครื่องบินดีเลย์แต่ที่เค้าเตอร์ไม่รู้ มีตั๋วแล้ว ไม่ต้องโหลดกระเป๋า
และแล้วปฎิบัติการ the flash (วิ่งเร็วใกล้ความเร็วแสง) ได้เริ่มขึ้น ตอนนั้น 18:10 ละ เจ้าหน้าที่ Etihad ให้บัตร FastLane มาอยู่ใกล้เค้าเตอร์ มีพนักงานพาวิ่ง เช็คกระเป๋า ตรวจพาสปอร์ต 5 นาที หลังจากนั้น วิ่งไปเกต(ประตู) D6. ดีที่อยู่ตรงนั้นเลย พนักงานพาวิ่งมา ส่งให้พนักงานคนที่สอง ส่งต่อให้พนักงานที่สามพาวิ่ง เค้าพูดกับผมเป็นภาษาอังกฤษ You need to run you are the last one hurry upๆๆ มือนึงถือคอมมือนึงหิ้วกางเกงที่ใส่ตัวหลวมๆมาทุลักทุเล ส่งต่อให้พนักงานคนที่สีพาลงบันได
ตรวจตั๋ว พนักงานคนที่ห้าพาเดินเร็วไปที่เครื่องถึงเครื่อง 18:20 เหลือเวลา 20 นาทีเครื่องออก ผู้โดยสารอยู่ในอาการพักผ่อนไม่มีใครสนใจใคร
เป็นอันเสร็จพิธี
นั่งปุ๊บ ลุงป้าชาวสกอตแลนด์ชวนคุยทันที แต่ตอนนั้น หัวใจเต้นเร็วสุด กระหายน้ำ อยากจะอาเจียน
ผ่านไปยี่สิบนาทีหัวใจยังเต้นอยู่ที่ 120 ครั้งต่อนาที (เป็นการบริหารหัวใจ เป็นการหลอกให้ร่างกายหลั่ง Growth hormone ออกมาจากสภาวะขับขันต่อสู้ แต่ไม่เครียดนะเตรียมใจละว่าได้วิ่งชัวร์ ดีกว่าเสียเงินซื้อตั๋วใหม่
อากาศแปรปรวน งดการบริการอาหารและเครื่องดื่ม สามชั่วโมง กัปตันประกาศ, ดีที่ผ่านไปสองชั่วโมงอากาศดีขึ้นได้กินน้ำแล้ว
ตอนนี้นั่งอยู่บนเครื่อง จาก อาบูดาบี มาโรม ใกล้ถึงแล้วหละ โรม ตอนนี้ 5:25 ประเทศไทย 10:25 ละ
ต้องมานั่งพิมพ์เพราะคิดว่าตัวเองเองน่าจะเป็นพวกอัลไซเมอร์ พรุ่งนี้อาจจะจำอะไรไม่ค่อยได้
ติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ
#ABHICHAT
รายงานจาก ความสูง 36000 ฟุต ทางใต้ประเทศอิตาลี (ถ้าวิ่งไปตะวันตก ความสูงจะเป็นเลขคู่ จากพันทิป)