แล้วเราก็มาถึง เมือง อีกุสประเทศรัสเซีย อาจจะเรียเออกุสก็ได้ เครื่องลงจอดประมาณตี 2 ดังนั้นเรามีเวลาเหลืออีกหลายชั่วโมงนะ เพื่อจะขึ้นเครื่องต่อไปมอสโก ตอน 9 โมงครึ่ง ตอนที่ถึงสนามบิน ต้องนั่งรถบัส ไปที่ ตึก ขา เข้า
ตอนที่ลงจากเครื่องบินมาที่รถบัส สัมผัสได้ถึงอากาศอันหนาวเหน็บ อุณหภูมิติดลบ 1° ซึ่งก็ใส่เสื้อกันหนาว ไม่ได้หนามาก ดีที่ระยะทางจากเครื่องบินขึ้นรถบัสไม่ไกลมาก พอมาถึงที่ตึกอาคารขาเข้า มันเก่ามากมากมากมากมาก
ตอนที่ลงจากเครื่องบินมาที่รถบัส สัมผัสได้ถึงอากาศอันหนาวเหน็บ อุณหภูมิติดลบ 1° ซึ่งก็ใส่เสื้อกันหนาว ไม่ได้หนามาก ดีที่ระยะทางจากเครื่องบินขึ้นรถบัสไม่ไกลมาก พอมาถึงที่ตึกอาคารขาเข้า มันเก่ามากมากมากมากมาก
คำอธิบายภาพประกอบ ทุกคนเดินเข้าไปในต้องยืนรอตรงนี้ แล้วก็เข้าไปในเคาน์เตอร์นี้ หน้าที่ของคุณคือ ยืนรอ แค่นั้นเอง ส่งเอกสารพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ไป ช่อง ที่ผมใช้บริการ พนักงาน ยังไม่อยู่ ก็เลยเดินออกไป ถาม เจ้าหน้าที่อีกช่อง 1 ว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าใช่หรือไม่ ประมาณนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ต้องเตรียมเอกสารที่ที่จะอะไรไปทั้งนั้น เชื่อว่าคนไทยไปเที่ยวเยอะมาก เค้าชินแล้วละ
อาคารข้างในดูเก่ามากเหมือนโรงพยาบาลเก่า มีพนักงาน สนามบิน ตรวจคนเข้าเมือง ประมาณแค่ 4 เคาน์เตอร์ 4 ช่อง กว่าผมจะไปถึง เคาน์เตอร์ได้ ก็ใช้เวลาประมาณเกือบครึ่ง 45min คือ ช้ามาก กระบวนการที่เค้าทำ คือเราไม่จำเป็นต้องกรอกใบ immigration form เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลให้เรา ในคอมพิวเตอร์ แอบเห็นโปรแกรมที่เค้าใช้ เหมือนกับดอส เลย เขาก็จะถามว่า มาทำอะไร ทัวริสต์ หรือบิสสิเนส เราก็ตอบไปว่าทัวริสต์ ถ้าคุณใส่แว่นตาเค้าก็จะบอกให้คุณถอด เพราะจะมีกล้อง คอยบันทึกภาพเอาไว้ คล้ายๆกล้องวงจรปิดแค่นั้นเอง คริสเข้าไปในตรวจพาสปอร์ทก่อนผม เราพอถึงคิวผม ซึ่งก็ใช้เวลานานมาก ปรากฏว่าคริสรออยู่ ก็เลย เดินไปหาทางออกด้วยกัน เจอกลุ่มของคนไทยบ้าง เค้าก็เลยบอกเราเป็นภาษาอังกฤษว่าให้เดินออกไป อีกตึก 1 เป็นตึกขาออก ส่วนเค้าจองโรงแรมมาแล้วจะจะไปนอนพักก่อน ฟังสำเนียงคล้ายๆจะเป็นคนไทย ก็เลยพูดภาษาไทยด้วย เค้าคงนึกว่าผมเป็นมาเล หรือสิงกโปร์มั้ง ทุกคน จะไปท่องเที่ยวที่รัสเซีย โดยเริ่มจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก่อน ตามหนังสือที่ทุกคนซื้อไป จากร้านหนังสือ ซึ่งผมก็มีเล่มนั้นอยู่นั้นเหมือนกัน แต่ผมคิดเส้นทางเดินใหม่ ให้บินต่อไปจนถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คงเหนื่อยน่าดู เกือบ 24h
พอมาถึง ที่ตึกใหม่ เราก็หาที่สิงสถิต ตอนแรกเราก็นั่งอยู่ที่ชั้น 1 ก่อน คริสก็ไปชาร์ทแบตมือถือ ส่วนผมก็ออกไปหาซื้อซิมการ์ด ได้ซิมเอ็มทีเอส ราคาอยู่ประมาณ สี่ถึงห้าร้อย รูเบิล ก็ไม่แพงมาก ได้ 3GB ซึ่งสองสามวันก็ใช้หมดแล้ว จะไปสมัครเพิ่มอีก 200 เหรียญ ได้เพิ่มอีก 4.2GB คุยกับพนักงานไม่รู้เรื่องหรอก ใช้กูเกิลทานสเลเตอร์ ที่มี ที่มี function พูด ผมก็ให้เค้าพูดเป็นภาษารัสเซีย ส่วนผมก็พูดภาษาอังกฤษ มันก็จะแปลไปแปลมา กว่าจะเข้าใจกันก็เหนื่อย คริสต้องเดินตามมาดู 1 รอบ ว่าโอเคไหม พนักงานพาผมไปเติมเงินที่ตู้เอทีเอ็มซึ่งเดินไกลออกไป ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าจะพาไปไหน พอเติมเสร็จก็ต้อง รอประมาณชั่วโมง 1 ถึงจะกดรหัสในการสมัครโปรโมชั่นได้ เอาจริงๆเราก็ไม่รู้ว่ามันได้หรือเปล่า ในระบบเมื่อตอนเช็คกับเว็บไซต์ มันก็บอกว่ามี 4GB แต่ internet ผมก็โดนตัดตอนอยู่เซนท์ปีเตอร์ ก็ต้องเติมเงิน เพิ่ม มันก็จะตัด 31 รุเบิ้ล ต่อ 300 เมกะไบท์ สรุปว่ายังงงกับมันอยู่ ช่างมันเถอะ ต่อไวไฟได้ก็ดี ที่สนามบินมี Wifi ฟรี หลังจากนั้นก็เดินกลับไปหาคริส พร้อมกับซื้อน้ำหนึ่งขวดไปให้ เพราะผมรู้สึกหิวน้ำมากก็เลยซื้อไปเผื่อ ตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการต่อเครื่องก็มีเวลาประมาณ 6h ซึ่งคริสค่อนข้างกังวลว่าเมื่อไหร่ เคาน์เตอร์จะเปิดให้เชคอิน ผมก็ไม่รู้ทำไมว่าจะต้องรีบด้วย
นอนไม่ค่อยหลับหรอกต่างที่ต่างถิ่น รอรอนอนกระสับกระส่ายตื่นบ้างหลับบ้าง พอเช้า ก็เลยผลัดกัน ไปดูว่า เคาน์เตอร์เปิดยัง คริสก็ยังกังวลเรื่องการเช็กอินอยู่ พอลงไปดู ยังไม่มีเปิด คือเค้าเปิดตรงเวลาเป๊ะก่อนเครื่องขึ้น 2h พอใกล้เวลา ทุกคนก็กรูกันเข้ามา รอเช็กอิน เหมือนคนจากต่างจังหวัดจะกลับไปเมืองหลวง ขนของเยอะมาก ที่นี่ทุกคนนิยม หุ้มกระเป๋า ด้วยพลาสติกใส ไม่ว่ากระเป๋าจะเป็นแบบไหนก็ตาม ส่วนผมไม่ได้ใช้บริการ จะเป็นรอยช่างมัน มีบริการที่สนามบิน แพงอยู่เหมือนกัน สองสาม 100 เหรียญ บางคนก็คงจะหุ้มมาจากบ้าน พอถึงเวลาพวกเรา เช็กอินโหลดกระเป๋า แล้วเราก็เดินไปที่ ที่รอขึ้นเครื่อง แต่เราเดินไปผิดทาง คริสก็บอกว่าไม่ผิด คริสบอกว่า เค้ามีบัตร บิสซิเนสเล้าจ์ ที่สามารถพาเพื่อนไปได้ด้วย 1 คน ผมก็เลยโชคดีได้รับการเชิญ ว่าแล้วทำไมคริสถึงอยากให้มันเปิดเร็วเร็ว เพราะว่าอยากจะชาร์ทแบตมือถือ มีที่นั่งสบายสบาย มีอาหารให้กิน นั่นเอง ผมต้องบินอีกเท่าไหร่ ถึงจะได้บัตรแบบนี้ คริส คริสบอกว่า เค้าเดินทางบ่อยเพราะว่าบริษัทส่งไป ดูงาน ในหลายประเทศ เกี่ยวกับเรื่องการขุดเจาะน้ำมัน ดูดีนะ
เราก็จะมีเวลาอยู่ ในนี้ประมาณ 1h นิดนิด กินข้าว กินกาแฟ ที่ไม่ค่อยอร่อย อิ่มเรียบร้อย ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย เมื่อถึงเวลาก่อนเครื่องออกประมาณ 30min ก็จะมีพนักงาน ประกาศ เราเป็นชนชั้นพิเศษ นะครับ ก็จะมีรถบัส ไม่ใช่สิรถตู้ มารับ ไปขึ้นเครื่อง ซึ่งถึงเป็นกลุ่มสุดท้าย ดังนั้น การหาที่วางกระเป๋าบนเครื่อง ช่างยากนัก เพราะทุกคนขนอะไรมาก็ไม่รู้ เสื้อผ้าผมบวม ชุดกันหนาว เต็มไปหมด ผมก็พยายามยัดมันเข้าไป
หาที่นั่งไม่เจอ เพราะมีคนนั่งแทนที่อยู่แล้ว ก็เลยถามแอร์ว่าจะทำอย่างไรดี ก็เลยไปคุยกับคนที่ นั่งแทนที่ของผม ซึ่งผมจองมา ติดหน้าต่าง เพื่อจะดูวิวตอนกลางวัน ไม่ได้โมโหอะไรมากๆ สรุปแล้วผมก็ได้นั่งติดทางเดิน กับครอบครัวที่นั่งแทนที่ผม มากัน 5 คน มีพ่อ 1 คน ลูกสาว 3 คน และลูกชายคนเล็ก 1 คน ถือว่าให้อภัยไปละกัน ให้เด็กๆได้ดูวิว(ร้องไห้หนักมาก)
หาที่นั่งไม่เจอ เพราะมีคนนั่งแทนที่อยู่แล้ว ก็เลยถามแอร์ว่าจะทำอย่างไรดี ก็เลยไปคุยกับคนที่ นั่งแทนที่ของผม ซึ่งผมจองมา ติดหน้าต่าง เพื่อจะดูวิวตอนกลางวัน ไม่ได้โมโหอะไรมากๆ สรุปแล้วผมก็ได้นั่งติดทางเดิน กับครอบครัวที่นั่งแทนที่ผม มากัน 5 คน มีพ่อ 1 คน ลูกสาว 3 คน และลูกชายคนเล็ก 1 คน ถือว่าให้อภัยไปละกัน ให้เด็กๆได้ดูวิว(ร้องไห้หนักมาก)
พอเครื่องขึ้นได้ซักพักหนึ่ง พนักงานก็เริ่มแจกอาหาร อาหารก็พอกินได้ไม่ค่อยอร่อยมาก ผมก็จะเลือกกินปลา ก่อนที่เค้าจะเสิร์ฟอาหาร เขาก็จะมีการเสิร์ฟน้ำเครื่องดื่มก่อน 1 รอบ น้ำ แอปเปิ้ลน้ำเปล่าน้ำมะเขือเทศน้ำส้ม จากนั้นก็จะมีข้าวตามมา ผมพยายามหาช่องทางในการถ่ายรูปผู้ต้องหา ที่ไปที่ได้แย่งที่นั่งผมไป
คุณพ่อของเด็กคนนี้คือคุณลุง ที่พยายาม เจรจาเป็นภาษารัสเซียกับผม ว่าขอร้องให้ลูกเข้าไปนั่งตรงนั้นเถิด ด้วยความเป็นคนดีผมก็เลยอนุญาต และแล้วอาหารมา ตามรูปข้างล่างเลย
การได้นั่งตรงนี้ มีเรื่องเกิดขึ้นประทับใจมากมาย ตอนที่กินอาหาร เด็กน้อยผู้ชายที่นั่งติดริมหน้าต่าง ไม่ค่อย ซน ซักเท่าไร ค่อนข้างพูดน้อยอารมณ์ดี แต่ซุ่มซ่าม ทำข้าว หกคว่ำ หลังจากที่กินก็ได้ครึ่งนึง ก็เลยโดนคุณพ่อดุ หน้าก็จ๋อยไปเลย ทำอะไรไม่ถูก คุณพ่อก็เลยเก็บกวาดทำความสะอาดให้ ที่ หกเลอะ กางเกงเสื้อผ้า จากนั้นเด็กน้อยก็ไม่มีอะไรกิน ก็เลยต้องกินขนมปัง ส่วนคนเป็นพ่อ ก็เลยเอาอาหารของตัวเอง ที่กินไปได้นิดหน่อย ให้ลูกทั้งหมด ส่วนตัวเองกินขนมปังแทน ลูกดีใจได้กินข้าว เห็นแล้วเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก ที่พ่อยอมเสียสละให้ลูก หลังจากนั้นลูกกลับมายิ้มได้ มันสัมผัสได้ถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เราสามารถสัมผัสมันได้ รู้สึกถึงมันได้ ทำไมหัวใจเราพองโต เลยทีเดียว
หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณลุง ที่เป็นพ่อ นอนหลับ ส่วนพวกเด็กเด็กทั้งหมด ก็เล่นมือถือบ้างคุยกันบ้างนอนบ้าง ส่วนผม เหมือนเป็นพี่ชายคนโต ต้องคอยส่งมือถือ หนังสือ ไปมาระหว่าง 2 ฝั่ง เวลาเจ้าตัวเล็ก เด็กน้อย จะไปห้องน้ำ ผมจะต้อง จัดการ ส่งซิกแนว ให้ฟัง 1 ให้พาเด็กน้อยไป เสมือนเป็น 1 ใน สมาชิก ของครอบครัวนี้
พี่สาวคนโต ก็เป็นคนพาน้องชายคนเล็กไปเข้าห้องน้ำ
เรื่องที่น่าประทับใจมากกว่านั้น ตอนใกล้จะถึงสนามบินมอสโก ได้มีโอกาสเห็น ความรัก ความผูกพัน ของ พ่อ ลูก
ครอบครัวนี้ พ่อลูก คู่นี้กอดกันบ่อยมาก ผมว่าเกิน 50 ครั้ง พ่อชอบจูบกระหม่อมเจ้าเด็กน้อย ผมว่าเกิน 100 ครั้ง เจ้าเด็กน้อยชอบกระโดดกอดพ่อ เป็นครอบครัวที่รักกันมาก ซึ่งเราจะไม่มีโอกาสเห็นภาพแบบนี้ในประเทศไทยเท่าไหร่นัก
หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณลุง ที่เป็นพ่อ นอนหลับ ส่วนพวกเด็กเด็กทั้งหมด ก็เล่นมือถือบ้างคุยกันบ้างนอนบ้าง ส่วนผม เหมือนเป็นพี่ชายคนโต ต้องคอยส่งมือถือ หนังสือ ไปมาระหว่าง 2 ฝั่ง เวลาเจ้าตัวเล็ก เด็กน้อย จะไปห้องน้ำ ผมจะต้อง จัดการ ส่งซิกแนว ให้ฟัง 1 ให้พาเด็กน้อยไป เสมือนเป็น 1 ใน สมาชิก ของครอบครัวนี้
พี่สาวคนโต ก็เป็นคนพาน้องชายคนเล็กไปเข้าห้องน้ำ
เรื่องที่น่าประทับใจมากกว่านั้น ตอนใกล้จะถึงสนามบินมอสโก ได้มีโอกาสเห็น ความรัก ความผูกพัน ของ พ่อ ลูก
ครอบครัวนี้ พ่อลูก คู่นี้กอดกันบ่อยมาก ผมว่าเกิน 50 ครั้ง พ่อชอบจูบกระหม่อมเจ้าเด็กน้อย ผมว่าเกิน 100 ครั้ง เจ้าเด็กน้อยชอบกระโดดกอดพ่อ เป็นครอบครัวที่รักกันมาก ซึ่งเราจะไม่มีโอกาสเห็นภาพแบบนี้ในประเทศไทยเท่าไหร่นัก
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6h ประมาณ 11 โมงครึ่ง แล้วก็มาถึง
วางแผนว่า จะนั่งรถไฟ แอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส ไป มอสโก ใช้เวลาประมาณ45min ส่วนคริส มีรถมารับ คงเป็นสวัสดิการพนักงานของบริษัท ดีทีเดียวถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด วันอาทิตย์ ส่วนคริสก็บอกว่า วันใหนว่างตอนเย็นกินข้าวกัน จะได้กินข้าวกับโซฟี แฟนของคริสด้วย ตกลงกันไว้อย่างดี ว่าจะเป็นวันนี้ แล้วผมก็ไปขึ้นรถไฟ ไปตัวเมือง เราก็เดินออกจากสถานีรถไฟ ไปที่พัก ไม่ค่อยหลงเท่าไหร่พอใช้ แผนที่ กูเกิล นำทางชีวิต ตลอดทั้งทริปนี้ อาจจะหลงบ้างเล็กน้อย ถึงที่พักประมาณ บ่าย 2 กะว่าจะนอนเล่นสักพักนึง แล้วก็ออกไป ท่องเที่ยว ช่วงบ่ายบ่ายเย็นๆ
Domodedovo International Airport วางแผนว่า จะนั่งรถไฟ แอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส ไป มอสโก ใช้เวลาประมาณ45min ส่วนคริส มีรถมารับ คงเป็นสวัสดิการพนักงานของบริษัท ดีทีเดียวถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด วันอาทิตย์ ส่วนคริสก็บอกว่า วันใหนว่างตอนเย็นกินข้าวกัน จะได้กินข้าวกับโซฟี แฟนของคริสด้วย ตกลงกันไว้อย่างดี ว่าจะเป็นวันนี้ แล้วผมก็ไปขึ้นรถไฟ ไปตัวเมือง เราก็เดินออกจากสถานีรถไฟ ไปที่พัก ไม่ค่อยหลงเท่าไหร่พอใช้ แผนที่ กูเกิล นำทางชีวิต ตลอดทั้งทริปนี้ อาจจะหลงบ้างเล็กน้อย ถึงที่พักประมาณ บ่าย 2 กะว่าจะนอนเล่นสักพักนึง แล้วก็ออกไป ท่องเที่ยว ช่วงบ่ายบ่ายเย็นๆ
ลงจากเครื่อง ก็ไปเอากระเป๋า ไม่ต้องตรวจพาสปอตแล้ว เพราะเป็นเที่ยวบินในประเทศ แล้วก็เดินออกมาตาม ป้าย แอโรเอ็กซเพรส แล้วก็ เลือกกดซื้อบัตรโดยสาร ราคา 450 เหรียญ ก็แพงเอาการอยู่ จะมีบาร์โค้ดอยู่ ที่ใบเสร็จ ซึ่งเป็นตั๋วนั่นแหละ เอาไว้สแกน ตอนเดินเข้าไปที่ชานชลา
ระหว่างทางประมาณ 40 กิโล ก็จะเห็นวิถีชีวิต ของผู้คน ในลักษณะชนบท โดยจะมีบ้านเดี่ยว กระจายอยู่ทั่วไป เท่าที่อ่านหนังสือมา โดยมากประชากรจะอาศัยอยู่ในเมืองช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หลังจากนั้นก็จะมาบ้านพักตากอากาศ ที่ชานเมือง ซึ่งทุกครอบครัว อาจจะมีบ้านพักอยู่ชานเมือง ก็จะมาอาศัยอยู่ช่วงเสาร์-อาทิตย์ การที่พวกเขาไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ทุกวัน เพราะบางฤดูกาลอากาศหนาวมาก ไม่เหมาะสมกับการอาศัยอยู่ และการเดินทางที่ค่อนข้างไม่สะดวก บ้านชนบทบ้านชาวเมืองเรียกว่าโดซ่า
ระหว่างที่เดินไปที่พักก็เกิดอาการหิว ก็เลยซื้ออะไรกินซะหน่อย เป็นร้านข้างทาง ตู้คอนเทนเนอร์ ราคาก็ไม่แพงมาก ประมาณ 150 เหรียญ เคบับ กับโค้ก 1 ขวด คูณ ด้วย ศูนย์. หก ห้า เข้าไป
จากที่ตั้งใจว่าจะนอนสัก 1h ปรากฎว่าตื่นมาอีกที 3 ทุ่ม สรุปแล้ววันแรกที่มาถึงมอสโก ไม่ได้เที่ยวครับ jet lagged การเหนื่อยล้าเวลาจะการเดินทาง
ที่พักที่จองในทริปนี้ สามารถดูได้ ที่นี่ ใช้เวลาเดินประมาณ 10min จากสถานีรถไฟฟ้า ใต้ดิน เป็นที่เดียวกันกับสถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส ถ้าจะแนะนำ อยากแนะนำให้เลือก ในเมืองกว่านิดหน่อย ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่ราคาก็จะแพงขึ้น แต่คุณสามารถเลือก ที่เป็นแบบ 2 ดาว ราคาก็จะถูกลง แต่ถ้ามีงบประมาณ ที่สูง 5000 ถึง 6000 บาทคืน สามารถพัก บริเวณ ใจกลางเมืองได้ ที่พักโรงแรมประมาณ 4 ดาว ที่พักในมอสโก ค่อนข้างแพงสำหรับโรงแรม สำหรับโฮสเทล หรืออพาร์ตเม้นต์ ไม่ค่อยแพงมาก ถ้าเป็นการพักรวม ห้องน้ำรวม ราคาก็ อาจจะถูกลง ผมเลือกไอบิส เพราะเป็นเครือโรงแรมของ accor มีเวลาเตรียมตัวน้อย ก็เลยเลือกที่ชัวร์ไว้ก่อน ขนาดที่พัก ที่ไกลออกมาจาก ตัวเมืองมานิดหน่อย ราคาประมาณ 3000 บาทต่อคืน ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีอาหารเช้า ตามนั้นนะ
ที่พักที่จองในทริปนี้ สามารถดูได้ ที่นี่ ใช้เวลาเดินประมาณ 10min จากสถานีรถไฟฟ้า ใต้ดิน เป็นที่เดียวกันกับสถานีรถไฟฟ้า แอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส ถ้าจะแนะนำ อยากแนะนำให้เลือก ในเมืองกว่านิดหน่อย ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่ราคาก็จะแพงขึ้น แต่คุณสามารถเลือก ที่เป็นแบบ 2 ดาว ราคาก็จะถูกลง แต่ถ้ามีงบประมาณ ที่สูง 5000 ถึง 6000 บาทคืน สามารถพัก บริเวณ ใจกลางเมืองได้ ที่พักโรงแรมประมาณ 4 ดาว ที่พักในมอสโก ค่อนข้างแพงสำหรับโรงแรม สำหรับโฮสเทล หรืออพาร์ตเม้นต์ ไม่ค่อยแพงมาก ถ้าเป็นการพักรวม ห้องน้ำรวม ราคาก็ อาจจะถูกลง ผมเลือกไอบิส เพราะเป็นเครือโรงแรมของ accor มีเวลาเตรียมตัวน้อย ก็เลยเลือกที่ชัวร์ไว้ก่อน ขนาดที่พัก ที่ไกลออกมาจาก ตัวเมืองมานิดหน่อย ราคาประมาณ 3000 บาทต่อคืน ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีอาหารเช้า ตามนั้นนะ
พอมาถึงสถานี แอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส Paveletskaya ก็เดินไปโรงแรมตามแผนที่
จบการรีวิวสำหรับการเดินทางอันยาวไกล มาที่มอสโก วันที่ 12 เมษายน เมษายน2558 ในระหว่างที่ประเทศไทยร้อน ที่นี่อากาศหนาวมาก ต่างกันโดยสิ้นเชิง พรุ่งนี้จะมารีวิวต่อ สำหรับการเที่ยววันแรกที่ประเทศรัสเซีย คอยติดตามตอนต่อไปนะครับ
สำหรับการรีวิวของผม ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย
สำหรับการรีวิวของผม ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย